วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์บอล อินเตอร์ มิลาน VS เอซี มิลาน

 วันที่ 6 พ.ค. 2555
สนาม : จูเซ็ปเป้ เอมัซซ่า
เวลา : 01.45 น.
ถ่ายทอดสดช่อง : ทรูสปอร์ต 3, Astro supersport 3
ราคาต่อรอง : เอซี มิลานต่อครึ่งลูกลบ 5-4

Inter Milan
               อันเดรีย สตรามัชโชนี่ โค้ชชั่วคราวของทีมเนรัซซูรี่ หมดสิทธิ์ใช้งาน เดยัน สแตนโกวิช มิดฟิลด์ชาวเซิร์บบาดเจ็บวืดตลอด 2 นัดสุดท้าย ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ กัปตันจอมเก๋าหายเจ็บกลับมา คงถูกดันขึ้นมาคุมจังหวะร่วมกับ เฟรดี้ กวาริน และ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ เปิดพื้นที่ข้างหน้าให้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ปั้นเกมหลังคู่หอก เมาโร ซาราเต้ กับ ดีเอโก้ มิลิโต้ แผงหลังแบ็กโฟร์คงไม่เปลี่ยนจากนัดก่อนๆ คริสเตียน คิวู ดาวเตะโรมาเนีย ยังเจ็บไม่หาย ทว่า ยูโตะ นางาโตโมะ เล่นแบ็กซ้ายทดแทนได้ดี อีกฝั่งยังคงเป็น ดั๊กลาส ไมค่อน เช่นเดียวกับคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ลูซิโอ ประสานงานกับ วอลเตอร์ ซามูเอล รวมถึงนายทวารมือหนึ่ง ชูลิโอ เซซาร์

AC Milan
               ทีมแชมป์เก่า รอสโซเนรี่ ของกุนซือ มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี ยังคงไร้ ติอาโก้ ซิลวา กองหลังคนสำคัญไม่ฟิตเต็มร้อย ต้องใช้บริการ ดานิเอเล่ โบเนร่า เล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ อเลสซานโดร เนสต้า ขนาบข้างด้วย อินยาซิโอ อบาเต้ และ ลูก้า อันโตนินี่ สำหรับนายทวาร ฟลาวิโอ โรม่า ที่เดี้ยงเป็นแค่มือสามเท่านั้น คริสเตียน อับเบียติ ยังรเอมเฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อไป ตรงกลางสนามมีตัวเลือกเยอะขาดแค่ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ โดยเชื่อว่า มาร์ค ฟาน บอมเมล จะได้คืนตัวจริงประคอง อันโตนิโอ โนเชริโน่ และ ซัลลีย์ อาลี มุนตารี่ แดนหน้าสูตรเดิม เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง ยืนต่ำสนับสนุน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ โรบินโญ่ หรือยังไม่มี อันโตนิโอ คาสซาโน่ ได้ลุ้นอีกราย ส่วน อเล็กซานเดร ปาโต้ และ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ต่างก็เดี้ยงวืดยาวๆ ต่อไป

ทรรศนะ
               อินเตอร์ เหมือนจะดูดีในยุคโค้ชใหม่ ทว่าจริงๆ แล้วมีแต่ใจสู้มากกว่า ระบบทีมยังมีช่องว่างเพียบเลยเต็มไปหมด ผิดกับ มิลาน ที่กำลังมุ่งมั่นลุ้นแชมป์อยู่เหมือนกัน แนวรุกคมกริบไว้ใจได้เลย แดนกลางก็กลับมาแน่นปึ้ก เรตเกมนี้เปิดมาครึ่งลูกเสี่ยงเหมือนกัน เพราะสถิติคู่ยี้เบียดกันจริงๆ แต่ก็คาดว่า มิลาน จะเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-2

        สนับสนุนโดย : ฟังบอลออนไลน์สด ฟรี ฟังบอลออนไลน์ FM96 ฟังบอลพรีเมียร์ลีก ฟังบอลออนไลน์ FM99 Active Radio ฟังบอล FM96 ฟังบอลออนไลน์ผ่านเน็ต ฟังวิทยุออนไลน์

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์เกมส์ วีแกน vs นิวคาสเซิล


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

วีแกน :
    (4-3-3) : อาลี อัล ฮับซี - เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลการาซ, แกรี่ คัลด์เวลล์, มายเนอร์ ฟิเกรัว - เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, ฌอง โบเซฌูร์ - ฆอร์ดี้ โกเมซ, ฟรังโก้ ดิ ซานโต, วิคเตอร์ โมเซส

นิวคาสเซิ่ล :
    (4-4-2) : ทิม ครูล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ดาวิเด้ ซานตอน - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ชีค ติโอเต้, โยอัน กาบาย, โฮนาส กูเตียร์เรซ - เดมบา บา, ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่

วีแกน :
    เดอะ ลาติกส์ จากการทำงานของกุนซือสแปนิช โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ อดเก็บชัยสามนัดรวดเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากที่ออกไปโดนฟูแล่มกะซวก 2-1 อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่า กองหน้า ฟรังโก้ ดิ ซานโต (น่อง) จะไหวหรือไม่ในเกมฉะนิวคาสเซิ่ลที่ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ แต่ในรายของศูนย์หน้าอีกราย ฮูโก้ โรดาเยก้า(หัวเข่า) หวังจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิต หลังกลับมาลงซ้อมได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่หายหน้าไปเมื่อเจ็ดสัปดาห์ก่อน
กองหลัง รอนนี่ สตัม (เอ็นหลังหัวเข่า) ไม่น่าได้มีเอี่ยว แต่กองกลาง อัลเบิร์ต กรูซาต (น่อง) กลับมาอยู่ในข่ายการพิจารณาอีกครั้ง โดยเชื่อว่า มาร์ติเนซ คงไม่เปลี่ยนแปลงทีมมากนัก ขณะที่ ฌอน มาโลนี่ย์ มีลุ้นออกสตาร์ต

นิวคาสเซิ่ล :
    สาลิกาดง จากการทำงานของ อลัน พาร์ดิว ลุ้นตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป หลังชนะมาหกเกมรวดในพรีเมียร์ลีก โดยล่าสุดคือการเปิดรังขย้ำ สโต๊ค 3-0 ยึดที่สามของตารางในการยกพลไปเยือน วีแกน วันเสาร์นี้ ทางด้านของกุนซือ พาร์ดิว ไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด ปีกจอมเลื้อย กาเบรียล โอแบร์กต็อง (ข้อเท้า) และ ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ (โคนขาหนีบ) ต่างสามารถกลับมาลงซ้อมได้ทั้งคู่ แม้ยังไม่พร้อมคืนทีมก็ตาม จึงเหลือแค่ สตีเว่น เทย์เลอร์ (เอ็นร้อยหวาย) และแซมมี่ อเมโอบี้ (หัวเข่า) เท่านั้นที่ต้องพักยาว พาร์ดิวน่าจะยังยึดทีมชุดที่ทำได้ดี ในพักหลังเป็นแกนหลักต่อไป นำโดยคู่หัวหอกอันตราย เดมบา บา กับ ปาปิสส์  ซิสเซ่ ซึ่งมี ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ปั้นเกมรุกให้

วิจารณ์เกมการแข่งขัน
    แม้เป็นเรื่องหนักสำหรับวีแกนในการหยุดนิวคาสเซิ่ล แต่เดอะ ลาติกส์ก็เคยชนะแมนฯ ยูที่นี่มาแล้ว วีแกนดวลกับทีมใหญ่กว่าได้อย่างสูสีในระยะหลังจนไม่น่าแพ้นิวคาสเซิ่ล ลูกทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ มีลุ้นถึงล้มลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว ได้เลย

ร่วมสนับสนุนโดย : 7M ดูบอลผ่านเน็ต ดูบอลสด ดูบอลสดผ่านเน็ต ดูบอลสดผ่านเว็บ ลิ้งค์ดูบอลสด ดูฟุตบอลผ่านเน็ต ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์ ดูบอลสดออนไลน์ ดูกีฬาออนไลน์ 7M ดูบอลสด ดูฟุตบอลผ่านเน็ตฟรี

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์บอล ชาลเก้ – ดอร์ทมุนด์

ชาลเก้  – ดอร์ทมุนด์

     เวลา : 20.30 น.
     สนาม : เฟลตินส์ อารีนา
     ราคาต่อรอง : ดอร์ทมุนด์ ต่อ ปป. -5

ชาลเก้
     ฮุบส์ สตีเวน ไม่มีปัญหาตัวหลักเจ็บนอกจาก 2 นายทวารอย่าง ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ กับ ติโม ฮิลเดบรันด์ เท่านั้น แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการจัดทัพ แนวรับวาง เบเนดิคท์ โอเวเดส, โจเอล มาติป, คีย์เรียกอส ปาปาโดปูลอส, คริสเตียน ฟุช ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ ลูวิส โฮลบี, เจอร์เมน โจนส์ คุมจังหวะเกม เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, ราอูล กอนซาเลซ, จูเลีย ดรักเซอร์ ปั้นเกมรุก โดยมี คลาส แยน ฮุลเตลาร์ ยืนหน้าเป้า
     คาดหมายผู้เล่นตัวจริง : ลาร์ส อันเนอร์สตอล, เบเนดิคท์ โอเวเดส, โจเอล มาติป, คีย์เรียกอส ปาปาโดปูลอส, คริสเตียน ฟุช, คริสเจอร์เมน โจนส์, โลวิส โฮลบี, เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, ราอูล กอนซาเลซ, จูเลีย ดรักเซอร์, คลาส แยน ฮุลเตลาร์
     ผลงานในลีก 5 นัดล่าสุด : แพ้ เนิร์นแบร์ก 1-4 (เยือน), ชนะ ฮันโนเวอร์ 3-0 (เหย้า), เสมอ โฮฟเฟนไฮม์ 1-1 (เยือน), ชนะ เลเวอร์คูเซน 2-0 (เหย้า), ชนะ ไกเซอร์สเลาเทิร์น 4-1 (เยือน)

ดอร์ทมุนด์
     เจอร์ เกน คล็อปป์ ไม่มีปัญหาตัวหลักเจ็บและติดโทษแบนแต่อย่างใด เกมนี้จะยึดผู้เล่นเกมสอย บาเยิร์น ลงสนาม แนวรับวาง ลูคัส ปิซเซ็กซ์, เนเวน ซูโบติช, แม็ตส์ ฮุมเมลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ อิเคย์ กุยโดแกน, สเวน เบนเดอร์ ปักหลักตัดเกม ชินจิ คากาวะ, ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี และ เควิน โกรคลูทซ์ ปั้นเกมรุก โดยมี โรเบิร์ต เลวานลอฟสกี ยืนหน้าเป้า
     คาดหมายผู้เล่นตัวจริง : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, ลูคัส ปิซเซ็กซ์, เนเวน ซูโบติช, แม็ตส์ ฮุมเมลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์, อิเคย์ กุยโดแกน, สเวน เบนเดอร์, ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี, ชินจิ คากาวะ, เควิน โกรคลูทซ์, โรเบิร์ต เลวานลอฟสกี
     ผลงานในลีก 5 นัดล่าสุด : ชนะ บาเยิร์น 1-0 (เหย้า), ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-1 (เยือน), เสมอ สตุตการ์ท 4-4 (เหย้า), ชนะ โคโลญจน์ 6-1 (เยือน), ชนะ เบรเมน 1-0 (เหย้า)

     ทรรศนะ : ศึกดาร์บีแมชต์ย่านถ่านหินเกมนี้ฟัดกันแหลกแน่นอน โดยเฉพาะ ดอร์ทมุนด์ ที่มาเยือนเกมนี้ต้องการ 3 แต้มเพื่อก้าวสู่แชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 8 ไปครอง ขณะที่ ชาลเก ค่อนข้างจะชัวร์สำหรับโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ก็ยังคงเต็มที่เพราะเกมนี้มีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ จะเปิดฉากแลกกันตลอดทั้งเกม “ราชันสีน้ำเงิน” ได้ลงเล่นในบ้านก็จริง แต่นักเตะกรอบเหลือเกิน ช่วงหลังๆ เร่งไม่ค่อยขึ้น มาเจอกับ “เสือเหลือง” ที่กำลังคึกคัก แถมเกมรุกยังดุดันค่อนข้างชัวร์ และค่อนข้างเนินเป็นพิเศษ จึงน่าจะบุกมาคว้าชัยชนะกลับบ้านไปได้

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์บอล บุนเดสลีก้า : สตุ๊ตการ์ต - เบรเมน

สตุ๊ตการ์ต  - เบรเมน ... (01.30)
อัตรา : สตุ๊ตการ์ต ต่อ ครึ่งลูก

รายชื่อที่คาดว่าจะลง
     สตุ๊ตการ์ต (4-2-3-1) : สเวน อุลริช - โกโตคุ ซากาอิ, แซร์ดาร์ ทาสกี้, ยอร์ก นีแดร์เมเยอร์, อาร์ตูร์ โบก้า -  วิลเลี่ยม ควิสต์, คริสเตียน เกนท์เนอร์ - มาร์ติน ฮาร์นิค, ทามาส ไฮจ์นัล, จูเลียน ชีเบอร์ - เวด้าด อิบิเซวิช

     เบรเมน (4-1-2-1-2) : ทิม วีเซ่ - เคลเมนส์ ฟริตซ์, ฟร็องซัวส์ อัฟฟอลแตร์, โซเครติส, ลูคัส ชมิตซ์ - ทอม ธรายบูลล์ - ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, อเล็คซานเดอร์ อิ๊กนอฟสกี้ - มาร์โก มาริน - มาร์คุส โรเซนเบิร์ก, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

ทรรศนะ
     สำหรับเกมนี้ถือว่าเจ้าบ้านดูมีอนาคตมากกว่าทีมเยือนนะครับในช่วงนี้ ทางด้านเจ้าบ้านสตุ๊ตการ์ต นั้นฟอร์มการเล่นตอนนี้ถือว่าร้อนแรงมาตลอด 2 เดือนเลยนะครับ 8 เกมหลัง ชนะ 6 เสมอ 2 นะครับ แล้วเรื่องเกมในบ้านนั้นก็ถือว่าใช้ได้เลย 15 เกม ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 4 นะครับ ทำให้สถานการณ์ตอนนี้มีโอกาศลุ้นอันดับ 4 ได้เลยนะครับ แล้วทุกคนในทีมตอนนี้ก็หวังกันได้เลยเมื่อผลงานโดยรวมของทีมร้อนแรงอย่างนี้ สำหรับเรื่องผู้เล่นนั้นวันนี้จะมีตัวที่ติดโทษแบนอย่าง ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช เพราะได้รับใบเหลืองในเกมที่แล้วถือว่าส่งผลเล็กน้อยนะครับเพราะตัวนี้เป็น ตัวคุมเกมเลย แต่ตำแหน่งอื่นๆนั้นก็ยังเป็นชุดเก่งนะครับถือว่าพร้อมรบเหมือนเดิม ส่วนทางด้านทีมเยือนเบรเมนนั้นช่วงหลังผลงานสวนทางกับเจ้าบ้านเลยนะครับ 5 เกมหลังสุด เสมอ 3 แพ้ 2 นะครับทำเอาตอนนี้โอกาศลุ้นพื้นที่ยูโรป้ายังเหนื่อยเลยนะครับ บวกกับเกมนอกบ้านนั้น 15 เกม ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 7 นะครับ สำหรับเรื่องผู้เล่นนั้นวันนี้ต้องเสีย เมห์เหม็ด เอคิชี่ เพราะเกมที่แล้วเจ็บนะครับถือว่าเป็นห้องเครื่องตัวสำคัญเลย แต่เกมรุกก็ยังเป็นหน้าเดิมนะครับ มา ร์โก มาริน - มาร์คุส โรเซนเบิร์ก, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ นะครับ รูปเกมวันนี้สำหรับผมมองว่าเรื่องฟอร์มการเล่นแตกต่างกันมากเลยนะครับ ทำให้คงต้องเชียร์เจ้าบ้านกันต่อไปแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : อาร์เซน่อล -vs- แมนฯซิตี้

อาร์เซน่อล - แมนฯซิตี้
สนาม : Emirates Stadium
เวลา : 22.00 น.

ถ่ายทอดสดช่อง : ทรูสปอร์ต 1
ราคาต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ ป.ป ลบ 5



รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามทั้ง 2 ทีม

อาร์เซน่อล

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : วอจเซี๊ยค เซคเซสนี่ ; บาการี่ ซาญ่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส ; อเล็กซ์ ซง, มิเกล อาร์เตต้า ; ธีโอ วัลค็อตต์, โธมัส โรซิคกี้, อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ; โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

แมนฯซิตี้

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท ; ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ ; ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เด ย็องก์ ; ดาบิด ซิลบา, มาริโอ บาโลเตลลี่, ซามีร์ นาสรี่ ; เซร์กิโอ อเกวโร่

อาร์เซน่อล
        อาร์แซน เวนเกอร์ เฮดโค้ชเฟร้นช์แมน ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพเพิ่มเติมมาจากนัดพ่ายควีนส์ปาร์คฯ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แต่กุนซือเมืองน้ำหอมอาจจะหมุนเวียนผู้เล่นบางจุดจากเกมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ ซิลวินโญ่ ซึ่งทั้งคู่มีลุ้นสอดแทรกเป็น 11 ตัวจริง ภายหลังที่เป็นแค่ตัวสำรองในนัดที่แล้ว ขณะที่ อาบู ดิยาบี้ ห้องเครื่องผิวหมึก กับ ฟร็องซิส โกเกแล็ง ปราการหลังฝรั่งเศส ใกล้จะรีเทิร์นกลับมา คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้า นอกนั้นไม่มีอะไรเพิ่มเติม

แมนฯซิตี้
        โรแบร์โต้ มันชินี่ เตรียมกลับมาใช้งาน เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกตัวเก่ง หลังจากพลาดเกมเจ๊าซันเดอร์แลนด์ 3-3 เพราะเจ็บเท้า เช่นเดี่ยวกับ โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลังตัวหลัก ที่หายเจ็บซี่โครงพร้อมเป็นตัวเลือก ส่วน ซามีร์ นาสรี มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส มีลุ้นคืนทัพเช่นเดียวกัน ภายหลังที่หายหน้าไปเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เพราะมีปัญหาด้านครอบครัว ทั้งนี้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงจอมซ่าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ น่าจะยังคงอยู่ในแผนการทำทีมของ "มันโช่" ตามปกติ

ทรรศนะ
    ซิตี้ ฟอร์มมาตกแบบผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการลุ้นแชมป์ วันนี้จึงเป็นทดสอบสำคัญอีกเกมสำหรับ "มันโช่" ว่าจะพาทีมผ่านไปด้วยดีหรือไม่ ถ้าหากยังทำแต้มหล่นอีก โอกาสซิวแชมป์แทบปิดตายไปเลย ดังนั้นทางเลือกของ "เรือใบ" จึงมีไม่มากนัก ขณะที่ อาร์เซน่อล กำลังมั่นใจเต็มที่ เก็บชัยมา 6 เกมติดต่อกันในบ้าน ภาพรวม "เดอะ กันเนอร์ส" จึงเหลื่อมล้ำกว่านิดๆ แต่มาเจอกับ ซิตี้ ที่หลังพิงฝานั้นบอลคงเปิดแลกหมัดกัน

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

วิเคราะห์บอล ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก เชลซี vs เบนฟิก้า

เชลซี -vs- เบนฟิก้า
สนาม : Stamford Bridge
เวลา : 01.45 น.

ถ่ายทอดสดช่อง : ช่อง 3
ราคาต่อรอง : เชลซี ต่อ ครึ่งควบลูก



รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามทั้ง 2 ทีม

เชลซี
4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แดนหน้า ฆวน มาต้า กับ ซาโลมง กาลู เป็นตัวต่ำ หรือ สเตอริช เป็นตัวสอดแทรก และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวเป้า

เบนฟิก้า
4-3-1-2 อาร์เทอร์ เฝ้าเสา แนวรับ มักซี่ เปไรร่า, ลุยเซา, ฆาบี การ์เซีย, เอแมร์สัน แดนกลาง อักเซล วิตเซล กับ เนมานย่า มาติช คุมกลางสนาม แนวรุก บรูโน่ เซซ่าร์, ปาโบล ไอมาร์, นิโกลัส ไกตาน หน้าเป้า ออสการ์ คาร์โดโซ่


เชลซี
        ปัญหาเรื่องโทษแบนไม่มีให้ต้องกังวล มีเพียงพวกที่คาดโทษอย่าง แอชลี่ย์ โคล, ราอูล เมยเรเลส และ ดาวิด ลุยซ์ ต้องระวังโดนใบเหลือง มิเช่นนั้นจะติดโทษแบนในรอบต่อไปทันที
สภาพทีม ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าไอวอรี่โคสต์ เจ็บนิ้วเท้าตอนซ้อมเมื่อวันศุกร์ ทำให้ไม่มีชื่อในเกมลีกที่บุกถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-2 เมื่อวันเสาร์ และต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมวันพุธนี้
        โอกาสจึงตกเป็นของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เพิ่งประเดิมประตูแรกในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปีที่แล้ว ในเกมที่ วิลล่า พาร์ค เป็นประตูที่ 3 จาก 4 นัดหลัง รวมถึงโชว์ฟอร์มโดดเด่นนัดแรกที่ เบนฟิก้า ซึ่งเป็นคนกระชากเข้าไปเปิดถวายพานให้ ซาโลมง กาลู ซัลโวประตูชัยด้วย


เบนฟิก้า
        สภาพทีมปัญหาใหญ่อยู่ที่แนวรับ เมื่อ เอเซเกล การาย, จาร์เดล และ มิเกล วิตอร์ บาดเจ็บทั้งหมด ทำให้เหลือ ลุยเซา เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟแค่คนเดียว คาดว่าจะต้องถอย ฆาบี การ์เซีย ลงไปเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น
        ข่าวดีคือจะได้ ปาโบล ไอมาร์ จอมทัพชาวอาร์เจนไตน์ กลับคืนทีมอีกครั้ง หลังติดโทษแบนในเกมลีกที่เจอ บราก้า พร้อมประสานงานร่วมกับ นิโกลัส ไกตาน รุ่นน้องชาติเดียวกัน ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นมากในเกมล่าสุด
        สำหรับเกมยุโรปพวกเขาไม่มีผู้เล่นติดโทษแบน แต่พวกที่ต้องระวังใบเหลืองเพิ่มคือ ลุยเซา, เอเซเกล การาย, ฆาบี การ์เซีย, อาร์เทอร์ และ บรูโน่ เซซ่าร์ คาดโทษอยู่


ทรรศนะ
  เชลซีอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ ทั้งการได้ลงเล่นในบ้านบวกกับลูกอะเวย์โกลที่ล้ำค่าตุนอยู่ในกระเป๋า ขณะที่ทีมเยือนบุกมาด้วยสภาพแนวรับที่เข้าขั้นพิการ อีกทั้งยังต้องเปิดเกมรุกใส่แหลกเพื่อหวังทวงประตูคืนโดยเร็ว ถือว่าลงล็อคเข้าทางเชลซี และด้วยเกมในบ้านถ้วยยุโรปฤดูกาลนี้ของสิงห์บลูส์เก็บชัยชนะมาเรียบ ดูแล้วมีโอกาสสูงคืนนี้ ฟันธง อยู่เชลซี

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอก บาร์เซโลน่า ขาดอีกเพียง 1 ประตูก็จะทำสถิติเป็นดาวยิงสูงสุด

        ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกตัวเก่ง บาร์เซโลน่า ขาดอีกเพียง 1 ประตูก็จะทำสถิติเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาล "เจ้าบุญทุ่ม" หลังมีการศึกษาสถิติ เซซาร์ โรดริเกซ ตำนานแห่งคัมป์ นู ใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายิงได้น้อยกว่าที่คิด 3 ประตู โดยหากสตาร์อาร์เจนไตน์ทำได้ 2 ประตูในเกมกับ กรานาด้า ก็จะเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่ทันที

        ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าตัวเก่ง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ต้องการอีกเพียง 1 ประตูเท่านั้นเขาก็จะทำสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของต้นสังกัด หลังจากที่มีการพิจารณาสถิติของ เซซาร์ โรดริเกซ ตำนานหัวหอกแห่งถิ่นคัมป์ นู ใหม่ และปรากฎว่าจำนวนประตูที่เขายิงได้ลดลงจาก 235 ประตูเหลือ 232 ประตู จากการรายงานเมื่อวันอังคารที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา

        ศูนย์ บริการเอกสารและการศึกษาของ บาร์ซ่า และหนังสือพิมพ์ลา บานกวาร์เดีย ร่วมกันศึกษาจำนวนประตูอย่างเป็นทางการของ โรดริเกซ ในช่วงยุค 1950 และผลปรากฎว่าตำนานแข้ง "เจ้าบุญทุ่ม" ยิงได้น้อยกว่าที่คิดเอาไว้ 3 ประตู ทำให้ในเวลานี้ เมสซี่ ที่ยิงไปแล้ว 231 ประตูจาก 313 นัด ต้องการอีกเพียง 1 ประตูเท่านั้นเพื่อทำสถิติขึ้นไปทาบ

        ดาวเตะเจ้าของ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งซัดไปแล้ว 51 ประตูในทุกรายการในฤดูกาลนี้ มีสิทธิ์ที่จะกลายเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่ หากเขายิงได้ถึง 2 ประตูในเกมลา ลีกา นัดที่ บาร์ซ่า จะเปิดรังคัมป์ นู รับการมาเยือนของ กรานาด้า ในวันอังคารนี้ โดยแข้งวัย 24 ปีอยู่ในฤดูกาลที่ 8 ของเขากับ "เจ้าบุญทุ่ม"

        "หลังจากที่ศึกษาทุกแมตช์ ของ เซซาร์ มันยืนยันว่า เมสซี่ ตามหลังอีกเพียง 1 ประตูเท่านั้น มันไม่มีความหมายอะไรที่ เซซาร์ โรดริเกซ คือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรในแมตช์อย่างเป็นทางการ แต่สถิติที่แท้จริงแล้วเป็นของ เปาลิโน่ อัลกันตาร่า ซึ่งยิง 369 ประตูจาก 357 นัดทั้งที่เป็นทางการและแมตช์อุ่นเครื่อง" บาร์ซ่า เผย

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

เดเคอา นายทวาร"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยันไม่โกนเคราจนผีจะซิวแชมป์

        สาวก "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องลุ้นกันหน่อยว่าจะได้เห็น ดาบิด เด เคอา นายทวารหนุ่มชาวสแปนิช ไว้หนวดเครารุงรังในซีซั่นหน้าหรือไม่ หลังออกโรงยันจะไม่หยิบมีดโกนเลยจนกว่าทีมจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก หรือ ทัพ "กระทิงดุ" ซิวเหรียญทองในศึก "ลอนดอนเกมส์ 2012" ช่วงซัมเมอร์นี้

        ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำให้ต้องลุ้นกันว่าเขาจะมีหนวดเครารุงรังเสมือนกับเป็นหนึ่งในสมาชิกของ "ซีซี ท็อป" วงดนตรีร็อคชื่อดังในอดีต เจ้าของซิงเกิ้ล "ชาร์ป เดรสส์ แมน" (Sharp Dressed Man) เมื่อฤดูกาลหน้าเริ่มขึ้นหรือไม่ หลังประกาศว่าจะโกนออกก็ต่อเมื่อพลพรรค "เร้ด เดวิลส์" คว้าแชมป์ลีกผู้ดี หรือไม่ก็ทีมชาติสเปน สามารถคว้าเหรียญทองฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิก "ลอนดอนเกมส์ 2012" มาครองได้เท่านั้น

         นายทวารสแปนิช วัย 21 ปี กล่าวว่า "การมีเคราได้สร้างความพึงพอใจให้กับทั้งผมและแฟนของผมเป็นอย่างมาก ผมต้องการจะไว้มันไปจนกระทั่ง ยูไนเต็ด ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก หรือไม่ทีมชาติสเปน ได้แชมป์ โอลิมปิก"

         ทั้งนี้ทัพ "ผีแดง" กำลังเปิดศึกล่าแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างสนุกในซีซั่นนี้ โดนตอนนี้มีแต้มเป็นรองคู่ปรับร่วมเมืองที่เป็นจ่าฝูงอยู่เพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น เมื่อเหลือการแข่งขันอีกเพียง 11 นัด ขณะที่ทีมลูกหนัง "กระทิงดุ" ก็เป็นหนึ่งในทีมเต็งที่จะครองความยิ่งใหญ่ใน "ลอนดอน เกมส์ 2012" ช่วงซัมเมอร์นี้

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผอ.สโมสรลิเวอร์พูล ประกาศไม่ทุ่มคว้าซูเปอร์สตาร์เสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้

        ดาเมียง โกมอลลี่ ผอ.ฟุตบอล ลิเวอร์พูล ดับฝันเดอะ ค็อป ประกาศสโมสรจะไม่ทุ่มคว้าซูเปอร์สตาร์เสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ หลังทีมเซ็นสัญญากับนักเตะมาแล้วมากมาย นับตั้งแต่ เคนนี่ ดัลกลิช เข้ากุมบังเหียน ชี้ตอนนี้ "หงส์แดง" แกร่งอยู่แล้ว และจะทำเพียงแค่ปรับปรุงในบางตำแหน่งเท่านั้น

        ดาเมียง โกมอลลี่ ผู้อำนวยการฟุตบอล "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า ต้นสังกัดจะไม่มีการทุ่มเงินครั้งใหญ่ซื้อนักเตะชื่อดังเข้ามาเสริมทัพใน ช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน

         ลิเวอร์พูล เพิ่งคว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ปี 2006 จากการชนะเลิศศึกคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อกันว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการกลับมาครอง ความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอีกครั้งของทีม

         ลิเวอร์พูล ลงทุนไปอย่างมากมายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากการเซ็นสัญญากับนักเตะอย่าง แอนดี้ แคร์โรลล์, หลุยส์ ซัวเรซ และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ซึ่งใช้เงินไปเกินกว่า 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) และมีการคาดหมายว่า "หงส์แดง" จะคว้านักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมทัพอีกในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ล่าสุด โกมอลลี่ ออกมาปฏิเสธเรียบร้อยแล้ว

         "มันยัง เร็วเกินไป เราอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างในช่วงซัมเมอร์ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เราเคยทำไปแล้วก่อนหน้านี้ เราเซ็นสัญญากับนักเตะ 9 คนนับตั้งแต่ เคนนี่ กลับมา ดังนั้น มันจะเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในบางตำแหน่ง แต่ไม่มีอะไรมากมาย"

         "เรา ทำงานกันอย่างหนักและในตอนนี้มันเป็นเรื่องของการปรับปรุงในบางตำแหน่ง เคนนี่ พูดหลายครั้งแล้วว่าเรามีทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์ และทุกตำแหน่งก็มีนักเตะ 2 หรือ 3 คน นักเตะที่มีคุณภาพ และเรามีนักเตะดาวรุ่งมากมายที่ก้าวขึ้นมาด้วย" โกมอลลี่ กล่าว

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ศึก"ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก" รอบสามโซนเอเชียนัดสุดท้าย ระหว่าง ไทย กับ โอมาน

สนามบัวเซอร์ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน

        ศึก"ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก" รอบสามโซนเอเชียนัดสุดท้าย ที่สนามบัวเซอร์ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน ระหว่าง "ขุนพลช้างศึก" ทีมชาติไทย กับ "เจ้าถิ่น" โอมาน ซึ่งจะแข่งเวลาเดียวกันกับคู่ของ ออสเตรเลีย ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของซาอุดีอาระเบีย โดยสายนี้ออสเตรเลียเข้ารอบไปแล้ว ส่วนทีมอันดับ 2 ยังได้ลุ้นกันถึง 3 ทีม ทั้งซาอุดีอาระเบีย, โอมานและไทย ซึ่งทั้งสามทีมต้องเอาชนะกันให้ได้เพียงสถานเดียวถึงจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย

        โดยเกมนี้ทีมชาติโอมานจะใส่ชุดสีแดงล้วน ซึ่งเป็นชุดเก่งลงสนาม ส่วนทีมชาติไทยจะใส่ชุดสีน้ำเงิน สำหรับสถิติในการเจอกันมาตั้งแต่ปี 1986 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 10 เสมอ 0-0, ปี 1998 เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ไทย ชนะ โอมาน 2-0, ปี 2001 เอเชียนคัพรอบคัดเลือก ไทย ชนะ โอมาน 2-0, เอเชียนคัพ 2004 โอมาน ชนะ ไทย 2-0

        ในปี 2005 คิงส์คัพ ไทย ชนะ โอมาน 1-0, เอเชียนคัพ 2007 ไทย ชนะ โอมาน 2-0, ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2008 โอมาน ชนะ ไทย 1-0 (เยือน), โอมมาน ชนะ ไทย 2-1 (เหย้า) และนัดล่าสุด ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2011 ไทย ชนะ โอมาน 3-0 (เหย้า) สรุปสถิติเจอกันมารวมทุกรายการ 9 นัด ไทยชนะ 5 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ยิงได้ 10 ลูกเสีย 5 ลูก

         สำหรับ 11 ผู้เล่นของทีมชาติไทยที่ถูกส่งลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ประกอบไปด้วย กวิน ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แบ็กซ้าย อนุชา กิจพงษ์ศรี ส่วนคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ จะเป็นการประสานงานกันระหว่างสองจอมเก๋า นิเวส ศิริวงศ์ กับ เจษฎา จิตสวัสดิ์ ฟากแบ็กขวา สุรีย์ สุขะ ได้ลงล็อกในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด

         ตำแหน่งกองกลางตัวตัดเกมจับเอา จักรพันธ์ แก้วพรม ยืนคู่กับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว แล้วโยกเอา สุธี สุขสมกิจ ทำเกมริมเส้นด้านซ้าย ทางกราบขวาใช้ สุเชาว์ นุชนุ่ม ซึ่งมีความเร็วเป็นตัวทะลุทะลวง และวาง จีรวัฒน์ มัครมย์ เป็นหน้าต่ำ แล้วให้ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกองหน้าตัวเป้า

        ด้าน ปอล เลอ กูแอ็น กุนซือทีมชาติโอมาน นั้นจะเปิดเกมรุกอย่างเต็มตัวแน่นอน โดยมี มูบารัค กับ อัลอาสมี่ เป็นสองประสานในเกมรับ ด้านแดนกลางมีตัวอันตรายอยู่ที่เกมริมเส้นทั้งซ้าย-ขวา คือ ฟาร์ไซ กับ ราจาบ เป็นตัวขับเคลื่อนเกม ขณะที่คู่กองหน้าส่ง ออสนี่ กับ อซิก เป็นตัวทะลวงเป้า

เริ่มเกมมาช่วง 5 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังดูเชิงกันอยุ่ เกมส่วนใหญ่อยู่ที่กลางสนาม

       [ทำประตู] ไทยมาพลาดเสียประตูจนได้จากจังหวะโยนยาวจากแดนกลางมาที่ริมเส้นทางขวาก่อนที่ กองกลางของโอมานจะจ่ายให้ ฮุสเซน อัล ฮาดรี้ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาบอลพุ่งไซด์หนีมือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม โอมาน นำแล้ว 1-0 ในนาทีที่ 8

อีก 3 นาทีต่อมา ไทยเปิดเกมแลก และมีโอกาสลุ้นทำประตูเมื่อ สุธี สุขสมกิจ ได้บอลจากด้านข้างก่อนสบจังหวะซัดด้วยซ้ายข้างถนัดแต่บอลเหินข้ามคานไปไกล

เข้าสู่นาทีที่ 15 ไทยมาเสียกระบวนเมื่อโดนนำเร็ว ทำให้ต้องมาเน้นเกมรุก แผงหลังจึงมีช่องโหว่และเกือบมาโดนนำห่างหลัง กวิน ธรรมสัจจานันท์ ชกบอลจากเปิดมาของโอมานบอลยังไม่พ้นอันตราย บอลมาเข้าทาง อาเหม็ด อัล ฮอสนี่ กองหน้าตัวเก่งโหม่งเต็มแรงแต่ กวิน ยังเซฟไว้ได้หวุดหวิด

โอมานกลับไปแพ็กเกมรับแน่น เน้นคุมโซนปล่อยให้ ไทย เป็นฝ่ายครองเกม แต่ไม่มีจังหวะหลุดถึงกรอบเขตโทษ

[ใบเหลือง] นาทีที่ 28 อับดุล อาลี มูไคนี่ มาโดนใบเหลืองใบแรกเมื่อไปทำฟาลว์ผู้เล่นของไทย ไทยได้ฟรีคิกกลางกรอบเตโทษ แต่ จีรวัฒน์ มัครมย์ ซัดข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น

นาทีที่ 35 อิสมาอิล อัล อัจมี่ ดาวยิงโอมานได้โอกาสหลุดไปยิงตัวต่อตัวกับ กวิน ธรรมสัจจานันท์ แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

[เปลี่ยนตัว] ไทยเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกอย่างรวดเร็ว เมื่อ สุเชาว์ นุชนุ่ม มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงไปแทน ในนาทีที่ 37

โมนเกือบได้ลุกสองเมื่อ ฮัสซัน ราเบีย กองกลางลากบอลเลี้ยงไปเองก่อนสับไกลจากระยะร่วม 25 หลาบอลพุ่งเรียดถากเสาแรกออกไปอย่างเสียวไส้ของกองเชียร์ไทย

ช่วงท้ายเกม โอมาน กลับมาบุกได้ต่อเนื่องอีกครั้งและ อาเหม็ด อัล ฮอสนี่ หัวหอกโอมานได้โอกาสยิงเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งผ่านมือของ กวิน ธรรมสัจจานันท์ แต่บอลเจ้ากรรมพุ่งชนคานดังสนั่น ไทยรอดเสียประตูที่สองไปหวุดหวิด

ก่อนจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้ โอมาน นำ ไทย 1-0

เข้าสุ่ครึ่งหลังไม่กี่นาทีโอมานได้จังหวะทักทายก่อนเมื่อ อิสมาอิล อัล อัจมี่ ได้โหม่ง แต่บอลเบาหลุดออกหลังไป

[ใบเหลือง] ไทยมาโดนใบเหลืองบ้างเมื่อ เจษฎา จิตสวัสดิ์ แนวรับตัวเก๋าไปเสียบ ฮัสซัน ราเบีย อย่างน่าเกลียด ในนาทีที่ 53

ผ่านมา 1 ชั่วโมงเต็มเกมของ "ขุนพลช้างศึก" ยังไม่ดีขึ้น รูปเกมสู้เจ้าถิ่นไม่ได้เลย โอมานทำเกมได้น้ำได้เนื้อกว่าและได้โอกาสทำประตูจาก อับดุล อาลี มูไคนี่ แต่ยังไม่ตรงกรอบ

[เปลี่ยนตัว] วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน ปรับแท็คติกเดินเกมรุกเต็มตัวโดยถอด จักรพันธ์ แก้วพรม ออกและส่ง ธีรเทพ วิโนทัย มาเสริมในแดนหน้าช่วย ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 65

3 นาทีถัดมาไทยได้เดินเกมรุกโดย สุรีย์ สุขะ ได้บอลยาวจากแดนหลังก่อนเปิดหักเข้ามาหน้าเขตโทษ แต่บอลออกหลังไปก่อนแล้ว

"ช้างศึก" ชวดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ตัวสำรอง ได้บอลหลุดมาทางกราบขวาโล่งๆ ก่อนลากเข้ามาในเขตโทษ แตะหลบกองหลังโอมาน ก่อนยิงหักข้อกะเสียบเสาแรกแต่บอลกลับพุ่งไปชนโคนเสาเต็มๆ ในนาทีที่ 72

[เปลี่ยนตัว] ไทยเปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง ชาตรี ฉิมทะเล มาแทน สุธี สุขสมกิจ ในตำแหน่งหัวหอกตัวเป้า

ในนาทีที่ 79 โอมานเกือบได้ประตูตอกฝาโลงเมื่อจังหวะทำชิ่งหน้าเขตโทษของไทยก่อน อาเหม็ด อัล ฮอสนี่ ได้หลุดมายิงโล่งๆ แต่กลับยิงเหินข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายโอมานเน้นรัดกุมมากขึ้น ครองเกมไม่ให้เสียบอลเพราะหากเก็บชัยชนะก็จะเข้ารอบทันที เพราะอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ออสเตรเลีย นำ ซาอุฯ ห่าง 4-2

[ใบแดง] ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าตัวสำรองมาโดนใบแดง หลังเข้าบอลช้าและขาไปพาดเอาตรงบริเวณลำคอของกองหลังโอมาน ผู้ตัดสินไม่ลังเลชูใบแดงทันที ในนาทีที่ 85 ทำให้สถานการณ์ของไทยลำบากขึ้นไปอีก

[ทำประตู] โอมาน มาได้ประตูปิดกล่องจนได้ในนาทีสุดท้าย เมื่อ อับดุล อาซิด มูบารัค กองหน้าของโอมาน ได้บอลจากกลางสนามก่อนลากเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษเบียดเอาชนะ นิเวส ศิริวงศ์ และยิงทันทีบอลพุ่งเรียดเสียบเสาแรกหมดจด โอมานนำห่าง 2-0

เวลาที่เหลือโอมานคุมเกมไว้ได้หมดก่อนหมดเวลา โอมานเป็นฝ่ายได้เฮ! หลังเปิดรังเอาชนะ ทีมชาติไทย ไป 2-0 และเป็นฝ่ายเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายต่อไปตามหลัง ออสเตรเลีย ที่ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 4-2 ส่วน ไทย กับ ซาอุดีอาระเบีย ต้องร่วงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
       โอมาน (4-4-2) : อาลี อัล ฮับซี - อาลี อัล จาบรี้, โมฮาเหม็ด อัล บาลูชี่, ฮุสเซน อัล ฮาดรี้, ฟูซี่ บาเชียร์ - ซาอัด อัล มูไคนี่, อับดุล อาลี มูไคนี่, อับดุล อัล มากบาลี่, ฮัสซัน ราเบีย - อาเหม็ด อัล ฮอสนี่, อิสมาอิล อัล อัจมี่
เทรนเนอร์ : ปอล เลอ กูแอ็น
       ไทย (4-2-3-1) : กวิน ธรรมสัจจานันท์ - สุรีย์ สุขะ, นิเวส ศิริวงศ์, เจษฎา จิตสวัสดิ์, อนุชา กิจพงษ์ศรี - จักรพันธ์ แก้วพรม, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว - สุเชาว์ นุชนุ่ม, จีรวัฒน์ มัครมย์, สุธี สุขสมกิจ - ธีรศิลป์ แดงดา
เทรนเนอร์ : วินฟรีด เชเฟอร์

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ปอร์โต้โร่ฟ้องยูฟ่าเหตุแฟนเรือเหยียดผิวฮัลค์


        รุย เซอร์เกร่า บอสบริหารเอฟซี ปอร์โต้ เอาคืนทันควัน โร่ฟ้องยูฟ่าให้เอาเรื่องแมนเชสเตอร์ซิตี้ด้วย โดยหาว่า ฮัลค์ หัวหอกชาวบราซิเลียนถูกสาวก"เรือใบสีฟ้า"ทำกิริยาไม่เหมาะสมใส่ระหว่างเกมยูโรปาลีก เมื่อวันพุธ บอกรู้สึกไม่ดีเลยที่ยังเห็นเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในวงการลูกหนังวันแล้ววันเล่า

        รุย เซอร์เกร่า ผู้อำนวยการสโมสรเอฟซี ปอร์โต้ ทีมดังจากลีกโปรตุเกส ยืนยันว่าทีมเตรียมจะยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการให้กับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จากกรณีแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ซิตี้ จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่ ฮัลค์ กองหน้าชาวบราซิลของพวกเขา ระหว่างเกมที่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" เปิดบ้านต้อนเอาชนะไปได้ 4-0 ในศึกยูโรป้าลีกรอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

         เซอร์เกร่า กล่าวหลังต้นสังกัดไม่อาจทะลุเข้าไปป้องกันแชมป์ในรายการนี้ได้เป็นผลสำเร็จ ว่า "กิริยาอาการเช่นนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติในอังกฤษ แต่เราต้องการกำจัดให้มันหมดสิ้นไปจากวงการฟุตบอล"

         ทั้งนี้ การร้องเรียนของปอร์โต้เกิดขึ้นเพียงแค่ 1 สัปดาห์หลังจากที่แมนฯซิตี้เพิ่งจะร้องต่อ ยูฟ่าไปว่า มาริโอ บาโลเตลลี่ และ ยาย่า ตูเร่ 2 สตาร์ดังของทีม โดนกองเชียร์ทีมดังแดนฝอยทองเหยียดผิวในระหว่างเกมนัดแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งองค์กรลูกหนังยุโรปยืนยันได้รับเรื่องแล้วเมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้บทสรุปในวันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์นี้

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ป๋าดันตัวจริง! เซอร์หวังปั้นเด็กป้อนผีเช่นในอดีต

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งปั้นดาวรุ่งในท้องถิ่นป้อนทีมให้ได้เหมือนในยุคที่มี เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์ และพี่น้อง เนวิลล์ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่พร้อมๆ กัน ขณะเดียวกัน นายใหญ่วัย 70 ปี ยืนยันว่า ตนยังไม่มีแผนที่จะวางมือจากการกุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ในขณะนี้

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก หวังที่จะกลับมาปั้นผู้เล่นดาวรุ่งท้องถิ่นให้ได้เหมือนในช่วงทศวรรษ 1990 ที่มี เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์ รวมทั้งพี่น้อง เนวิลล์ ที่สามารถก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้พร้อมๆ กัน หลังจากกฎข้อบังคับฉบับใหม่ส่งผลให้ "ปีศาจแดง" สามารถหันไปคว้าตัวแข้งดาวรุ่งต่างชาติมาเสริมทัพมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา

         กุนซือวัย 70 ปี เผยกับเว็บไซต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ว่า "มันต้องทำอะไรสักอย่างกับการเปลี่ยนแปลงของกฎที่เกิดขึ้น ไม่กี่ปีก่อน มันมีข้อบังคับที่ว่าคุณจะทำได้เพียงเซ็นสัญญากับผู้เล่นดาวรุ่งซึ่งมาอยู่ กับสโมสรได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่มันไม่เหมือนแต่ก่อนและมันทำให้เราสามารถเซ็นสัญญาผู้เล่นดาวรุ่งที่มี ฝีเท้ายอดเยี่ยมได้ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ในแง่ของการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งภายในสโมสร มันเป็นเวลาที่นานมากแล้วนับตั้งแต่เราปั้นนักเตะอย่างในรุ่งของ เดวิด เบ็คแฮม แต่กฎข้อบังคับก็ได้เปลี่ยนกลับมาคืนและมันเหมือนกับการย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้วอีกครั้ง ดังนั้นผมจึงหวังว่าเราจะสามารถปั้นนักเตะขึ้นมาได้เหมือนอย่างที่เคยทำ สำเร็จในอดีต"

         ขณะเดียวกันบิ๊กบอส "เร้ด เดวิลส์" ย้ำชัด ตนยังไม่มีแผนที่จะวางมือจากการคุมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากเจ้าตัวอยู่กุมบังเหียนที่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาครบ 25 ปี แล้ว โดยกล่าวต่อว่า "ปรัชญาของผมเป็นแบบนี้ ตราบใดที่ผมยังมีความสุขกับงานของผมและสุขภาพยังดี ผมก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป ผมไม่คิดว่าคุณจะสามารถตั้งข้อจำกัดของตัวเองได้ แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะวางแผนได้ไกลเกินไปเช่นกันเพราะคุณไม่รู้ว่าอะไรจะ เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ชัดเจนว่า เวลา(สำหรับการวางมือของผม)จะต้องมาถึงแน่ แต่ ณ ตอนนี้ มันยังไม่ใช่เรื่องที่ผมคิด" 

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แชมเบอร์เลนสุดปลื้มยิงเบิ้ลพาปืนไล่ถล่มกุหลาบ


        อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กองกลางดาวรุ่ง อาร์เซน่อล สุดปลื้มหลังซัดคนเดียว 2 ประตู พาต้นสังกัดไล่ถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เผยให้ความสำคัญกับผลการแข่งขันของทีมมากกว่าผลงานส่วนตัว พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝีเท้าให้ดีขึ้นต่อไป

        อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ปีกดาวรุ่ง อาร์เซน่อล เผยว่า รู้สึกยินดีที่สามารถยิงได้ถึง 2 ประตู ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ต้นสังกัดเปิดถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไล่ถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันว่าจะตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาฝีเท้าของตัวเองต่อไปโดยไม่เหลิงไป กับผลงานอันยอดเยี่ยมของตัวเอง

         ดาวเตะวัย 18 ปี เผยกับ "สกาย สปอร์ตส์" สถานีโทรทัศน์กีฬาของอังกฤษ ว่า "มันเป็นวันแห่งความสุขสำหรับทุกคน เรารู้ว่าเราจะต้องพลิกสถานการณ์กลับมาจากผลเสมอกับ โบลตัน 0-0 ซึ่งเราสร้างโอกาสได้หลายครั้งแต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ เรารู้ว่าหากวันนี้เราสร้างโอกาสได้เราก็จะยิงประตูได้ในท้ายที่สุด เมื่อดูจากสกอร์ที่ออกมา ผมคิดว่าเราทำได้ดี"

         "เรามอง หาสิ่งนี้มาตลอดฤดูกาล ผมคิดว่าเรากลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง เราจะต้องใช้สิ่งนี้เป็นปัจจัยในการผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไป มันเป็นเรื่องดีเสมอเมื่อได้มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องของทีม ไม่ใช่เรื่องการทำประตู แต่ก็ดีที่ยิงประตูได้และมีโอกาสได้ลงเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก ผมมีความสุขมากๆ กับสิ่งนั้น" อดีตแข้ง เซาธ์แฮมป์ตัน กล่าวในที่สุด

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เฟอร์กูสัน มั่นใจอีก 2-3 ปี จะได้เห็นฟอร์มเทพ เดเคอาชัวร์

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยัน ไม่หนักใจกับการที่ ดาบิด เด เคอา มือกาวดาวรุ่ง โดนวิจารณ์ฟอร์มการเล่น ชี้เป็นเรื่องปกติของนักเตะ "ปีศาจแดง" โดยเฉพาะการต้องมารับช่วงตำนานรุ่นพี่อย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปจนถึง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ชี้ เด เคอา ยังอายุน้อย และมั่นใจสุดๆ ว่าในอีก 2-3 ปี เด เคอา จะพัฒนาตัวเอง และเล่นได้เต็มศักยภาพ

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตต์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาสนับสนุน ให้กำลังใจ ดาบิด เด เคอา นายทวารดาวรุ่งชาวสเปน ยังไงก็จะเป็นอนาคตของทีม "ปีศาจแดง" อย่างไม่ต้องสงสัย หลังโดนวิจารณ์เสียหาย จากฟอร์มการเล่นที่เฟอะฟะ และเอาแน่เอานอนไม่ได้ ชี้หลายๆ คนเหมือนจะลืมไปว่า สำหรับผู้รักษาประตูแล้ว กว่าจะปรับตัว และพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้บางทีอาจต้องใช้เวลากว่า 2-3 ปี
 
        เฟอร์ กูสัน หันมาปักหลักเลือกใช้บริการของ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด นายทวารทีมชาติเดนมาร์ก ในหลายนัดที่ผ่านมา ก่อนจะได้ฤกษ์ส่ง เด เคอา กลับมาเฝ้าเสาในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 กับ ลิเวอร์พูล ซึ่ง เด เคอา ก็ไม่วายสร้างความหวาดเสียวจากการตัดสินใจเล่นจังหวะต่างๆ และโดนวิจารณ์ตามฟอร์มเมื่อทีมแพ้ไป 1-2 จากนั้นก็มีข่าวว่าเขาไม่สบาย และ เฟอร์กูสัน ส่ง เบน อามอส เล่นแทนในเกมชนะ สโต๊ค นิ่มๆ 2-0
 
        คาด ว่าเกมกับ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ. นี้ เด เคอา จะกลับมาเป็นตัวจริงได้ เนื่องจาก ลินเดการ์ด เจ็บจากการซ้อม ต้องพักนานหลายสัปดาห์ และ เฟอร์กี้ ก็หนุนหลัง จอมหนึบค่าตัวแพงว่าจะพิสูจน์ตัวเองได้แน่ๆ "เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ เขาทำผิดพลาดไป 2-3 ครั้ง แต่ในอีก 2-3 ปีนี้มันจะเป็นเรื่องที่เราจะได้ไม่หยิบมาถกเถียงกันเพราะเขาจะเติบโตขึ้น ตอนนั้นแหละที่เราจะได้เห็นศักยภาพแท้จริงของเขา"
 
        กุนซือ ชาวสกอตต์ ปกป้อง เด เคอา อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหลังจบเกมกับ ลิเสอร์พูล ที่ตำหนิกองหลังว่าไม่ได้ช่วยให้งานของ เด เคอา ง่ายขึ้นในจังวะโดน ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ โขกประตู 1-0 ที่ เด เคอา หมดปัญญาออกมาตัดบอล เนื่องจากโดนกลุ่มนักเตะของทั้งสองทีม ขวางทางหมด อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ ก็ยอมรับว่า เด เคอา ต้องพัฒนาในส่วนของร่างกายให้บึกบึนกว่านี้ แต่ก็เชื่อว่า เหตุที่ เด เคอา โดนวิจารณ์เยอะเหลือเกิน มาจากการเล่นให้ทีมใหญ่ และการถูกวางเป็นทายาทของตำนานทั้ง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ย้อนไปจนถึง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
 
        "เวลาเล่นกับ ยูไนเต็ด และทำผิดพลาด คุณมักจะโดนจับตามอง และก็ถูกทำให้เกินเลยไปเสมอๆ มันเป็นความผิดพลาด และเขาอยากจะจัดการมันด้วยตัวเอง เขาจะทำได้ขณะเขากำลังเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ และเริ่มมีความเข้าใจในเกมฟุตบอลอังกฤษ มันยากมากๆ ที่คุณต้องมารับช่วงจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และ ปีตเอร์ ชไมเคิ่ล พวกเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการลูกหนังยุโรปตลอด 40 ปีที่ผ่านมา"
 
        "มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ผมได้พบว่าการจะพาคนมาเล่นแทนพวกเขามันยากมากจริงๆ ซึ่งนั่นแหละเราถึงเลือกนักเตะอายุน้อยๆ เพราะพวกเขาสามารถพัฒนาขึ้นไปและพร้อมที่จะเล่นตำแหน่งนี้ เพราะว่าศักยภาพมันมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว" เฟอร์กี้ กล่าว

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

เอซีมิลานทุ่มเงิน 170 ล้านยูโรดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ร่วมทัพ


        สื่อตีข่าว แมนฯ ซิตี้ เตรียมเปิดศึกใหญ่กับ เอซี มิลาน ในการล่าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกเจ้าเสน่ห์ของ เรอัล มาดริด มาเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ คาดทั้งสองฝ่ายพร้อมควักกระเป๋ากว่า 170 ล้านยูโร เพื่อล่อใจอดีตสตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ย้ายมาร่วมทีม

        "สปอร์ต" สื่อกีฬาชื่อดัง ตีข่าว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก พร้อมขับเคี่ยวกับ เอซี มิลาน ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ในการทุ่มเงินกว่า 170 ล้านยูโร (ราว 7,310 ล้านบาท) เพื่อดึงตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมถล่มประตู "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด มาร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนี้

        ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของทีม มิลาน ดีใจเนื้อเต้นที่รู้ข่าวว่า โรนัลโด้ กำลังจะมาสร้างบ้านพักตากอากาศที่ เลก โคโม่ และเขาก็ไม่ปกปิดว่าอยากได้ตัว อดีตสตาร์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาสวมชุด "ปีศาจแดง-ดำ"

        อย่างไรก็ตาม "เรือใบสีฟ้า" ก็อยากได้ ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส เช่นเดียวกัน และด้วยอำนาจเงินของพวกเขาสามารถเอาชนะ มิลาน และคู่แข่งที่สนใจนักเตะได้ไม่ยากนัก โดยเมื่อปีที่แล้ว มีรายงานว่า แมนฯ ซิตี้ ได้ยื่นข้อเสนอจำนวน 170 ล้านยูโร เพื่อดึง โรนัลโด้ กลับมาสู่เมืองแมนเชสเตอร์ อีกครั้ง แต่สุดท้ายเจ้าตัวปฏิเสธที่จะพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว

        สำหรับฤดูกาลนี้แม้ เรอัล มีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ลา ลีกา แต่จากความสัมพันธ์ระหว่างแฟนบอลกับ โรนัลโด้ ไม่ราบรื่นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักเตะตัดสินใจย้ายออกจากถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ก็เป็นไปได้

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

เมสซี่ นักฟุตบอลคนแรกที่ขึ้นปก ไทม์


        สุดยอดต้อง ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะ บาร์เซโลน่า ผงาดกลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ขึ้นปก ไทม์ นิตยสารผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับได้รับการยกย่องให้เป็นแข้งหมายเลขหนึ่งตลอดกาลอีกต่างหาก
        ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา สังกัด บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน ยังคงเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ต่อไปทั้งในและนอกสนาม คราวนี้ถึงขั้นขึ้นปกนิตยสารดังระดับโลกอย่าง ไทม์ ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2012 เลยทีเดียว หลังจากที่ผงาดครองรางวัลนักฟุตบอลแห่งปีมาหมาดๆ ถึง 3 สมัยซ้อน จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ "เจ้าบุญทุ่ม" (fcbarcelona.com) เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
         นับเป็นครั้งแรกที่นักฟุตบอลจะได้มาปรากฎโฉมบนปกของ ไทม์ เพียงคนเดียวโดดๆ หลังจากที่มีนักกีฬาเพียงไม่กี่คนที่เคยได้รับเกียรติดังกล่าว อาทิ ไทเกอร์ วู้ดส์ นักกอล์ฟอดีตมือ 1 ของโลก, ไมเคิ่ล จอร์แดน ตำนานนักบาสเกตบอล เอ็นบีเอ และ มูฮัมหมัด อาลี ตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นยักษ์
         ไทม์ ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2012 ที่มี เมสซี่  ขึ้นปกจะวางจำหน่ายไปทั่วโลก (ยุโรป, เอเชีย และแปซิฟิกตอนใต้ ยกเว้นสหรัฐอเมริกา) ในวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค.นี้ ซึ่งเจ้าตัวได้รับการยกย่องด้วยถ้อยคำบนหน้าปกว่า "คิง ลีโอ" (King Leo) เลยทีเดียว โดย ไทม์ บรรยายว่า "เมสซี่ คือนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" และอาจจะ "ดีที่สุดตลอดกาล" ก็เป็นได้
         เมสซี่ ยังได้เอ่ยถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งทีมชาติโปรตุเกส สังกัด เรอัล มาดริด ทีมคู่ปรับสำคัญร่วมแดนกระทิงดุ ในบทสัมภาษณ์ของ ไทม์ อีกด้วยว่า "ผมคิดว่า เขาเป็นคนดี เขาเป็นนักเตะที่ดี ซึ่งนำพาหลายสิ่งหลายอย่างมาสู่ มาดริด และเป็นนักเตะที่ตัดสินเกมได้ทุกเมื่อ"
         ส่วน คำถามที่ว่า การเป็นคู่แข่งกับ โรนัลโด้ วัย 26 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่เก่งกาจมากขึ้นไปอีกหรือไม่นั้น แข้งทอง "บาร์ซ่า" วัย 24 ปี ระบุว่า "ผมไม่คิดแบบนั้นหรอกนะ ผมไม่เคยเอาตัวเองไปผูกติดกับเขาหรือเปรียบเทียบตัวเองกับนักเตะคนอื่นๆ ความคิดของผมมีแค่เพียงประสบความสำเร็จให้มากขึ้นในแต่ละปี เติบโตทั้งในฐานะนักฟุตบอลคนหนึ่ง และทีม ถ้าเขาไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ด้วย ผมก็จะทำแบบเดียวกันนี้อยู่ดีนี่แหละ" 

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

เฟอร์กี้โต้ดึงสโคลส์เหมือนผีถอยหลังลงคลอง

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โต้เสียงวิจารณ์ดึง พอล สโคลส์ กลับมาเล่น เป็นการถอยหลังเข้าคลองของทีม ชี้นักเตะที่ทำอะไรให้ทีมมากมาย แถมมีประสบการณ์ ความนิ่ง และจ่ายบอลแม่นยำ ไม่เข้ามาทำให้ทีมห่วยลงแน่

        เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปกป้องการตัดสินใจเรียกตัว พอล สโคลส์ มิดฟิลด์จอมเก๋า กลับมาสวมสตั๊ดค้าแข้งอีกครั้ง ในวัย 37 ปี ที่โดนใครบางคนบอกว่า ไม่ต่างจากการถอยหลังเข้าคลอง ชี้เท่าที่ดูไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วงเลย แม้เกมแรกที่กลับมาเล่นในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ที่บุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 จะเล่นผิดพลาดหลายจังหวะ และมีส่วนกับการเสียประตูด้วยก็ตาม 

         การ กลับมาของ สโคลซี่ สวนทางกับย้ายออกไปซบ เอฟเวอร์ตัน ของ ดาร์รอน กิ๊บสัน ที่หนุ่มกว่า สดกว่า และการตัดสินใจของ เซอร์ อเล็กซ์ ครั้งนี้ ถูกวิจารณ์ว่า เหมือนการถอยหลังเข้าคลอง ซึ่งขัดแย้งกับความคิดของ เฟอร์กูสัน ที่กล่าวว่า "ผมว่ามันไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วงเลยนะ อาจมีบางคนที่มองแง่ลบ พวกเขาบอกว่านี่คือพัฒนาการที่ถอยหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันจะเป็นการถอยหลังได้ยังไง ? คุณได้นักเตะที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมมานานกว่า 20 ปีแบบไม่ต้องเสียอะไร"

         "เขา จะไม่ได้เล่นทุกนัดอยู่แล้ว แต่ในแง่ของความนิ่ง การผ่านบอล เขาด้อยกว่าใครเหรอ ? ไม่เลย" เฟอร์กี้ กล่าว พลางบอกอีกว่า สำหรับเขาแล้วปัญหาใหญ่คือการปิดข่าวการรีเทิร์นของ สโคลส์ มากกว่า "ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเราทำได้ยังไง เราลงทะเบียนชื่อเขาวันศุกร์ และคิดว่ามันคงมีข่าวออกไปจนได้ แต่เราไม่ได้บอกให้นักเตะคนไหนรู้ด้วยเหตุผลเรื่องคุณค่าผลกระทบด้านจิตใจ เราจะไปเยือน ซิตี้ เพื่อเล่นเกม เอฟเอ คัพ เรามีแฟนบอล 5,000 คนตามมาเชียร์ และทันทีที่พวกเขารู้ว่ามีชื่อของเขาอยู่ในทีมด้วย พวกเขาดีใจมาก มันคือการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม"

           ด้วย วัย 37 ปี เหตุผลที่ สโคลส์ ยังเล่นได้ มาจากการดูแลตัวเองอย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ปล่อยให้แสงสีนอกสนามมารบกวน ผิดกับนักเตะรุ่นใหม่ โดย เฟอร์กี้ กล่าวว่า "สิ่งที่คุณต้องทำคือทำให้นักเตะรับรู้ และเข้าใจผลกระทบของความมีชื่อเสียง นาทีนี้คุณเป็นดารา นาทีต่อมาไม่ใช่ การรับมือกับความสำเร็จในทุกวันนี้มันยากกว่ามาก ทั้งจากสื่อ และโทรทัศน์ คุณจึงมีงานหนักในการทำให้พวกเขาไม่หลงตัวเอง"

         "ผมจะ บอกพวกเขาเสมอว่า - กลับไปหาแม่ในฐานะนายคนเดิมแบบตอนที่มา นี่คือสิ่งสำคัญ เพราะชั้นมั่นใจว่าแม่ไม่อยากเห็นนายที่เปลี่ยนไปแน่ๆ - และเราก็ไม่อยากเห็นพวกเขาเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน" เฟอร์กูสัน กล่าว ก่อนจะยกย่องศิษย์เก่าคนเก่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ตอนนี้ผันตัวมาทำงานผู้จัดการทีม และคว้าแชมป์กับ โมลด์ ที่ นอร์เวย์ บ้านเกิดได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ทำงาน 

         "โอเล่ เป็นหนึ่งในมืออาชีพที่จดจำทุกอย่างทั้งตอนซ้อม และตอนลงสนาม เขาเป็นคนเข้มแข็ง ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลย โอเล่เป็นคนดี เขาเป็นคนที่คนจะรัก แต่ถ้าคุณไปทำงานกับทีมอย่าง โมลด์ ใน นอร์เวย์ ที่ไม่เคยได้แชมป์เลยในประวัติศาสตร์ และคุณคว้าแชมป์มาครองได้ แสดงว่าคุณต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ"